สายตาของคนในวงการสตรีมมิ่งต่างจับจ้องไปที่การควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Disney และ Fubo ที่เพิ่งประกาศออกมา การรวมตัวกันของ Hulu + Live TV และ FuboTV นี้จะสร้างยักษ์ใหญ่รายใหม่ในวงการสตรีมมิ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมนี้อย่างมีนัยสำคัญ
รายละเอียดของดีลการควบรวมกิจการ
การควบรวมกิจการครั้งนี้จะทำให้เกิดบริษัทใหม่ที่ Disney ถือหุ้น 70% และ Fubo ถือหุ้น 30% โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้:
- รวมฐานผู้ใช้งานได้กว่า 6 ล้านคน กลายเป็นผู้ให้บริการ digital pay-TV อันดับ 2 รองจาก YouTube TV
- Hulu + Live TV และ FuboTV จะยังคงดำเนินการแยกกัน แต่บริหารงานโดย Fubo
- ไม่รวมบริการ Hulu แบบดั้งเดิม เป็นเพียงการรวม Hulu + Live TV เท่านั้น
- มีแผนจะเปิดบริการสตรีมมิ่งสดเฉพาะกีฬา โดยใช้ประโยชน์จากสัญญาและเครือข่ายของ Disney เช่น ABC และ ESPN
- Fubo จะยกเลิกการฟ้องร้อง Disney เกี่ยวกับ Venu Sports
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
การควบรวมครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อวงการสตรีมมิ่งในหลายด้าน:
- เกิดคู่แข่งรายใหญ่ของ YouTube TV
- เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคในการรับชมคอนเทนต์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
- อาจเกิดบริการสตรีมมิ่งกีฬาแบบเต็มรูปแบบรายแรก
- สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายใหญ่
“การควบรวมครั้งนี้จะสร้างทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะแฟนกีฬาที่ต้องการรับชมการถ่ายทอดสดคุณภาพสูง” – ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมสตรีมมิ่ง
Fubo and Disney’s Hulu + Live TV Virtual MVPD Businesses to Combinehttps://t.co/skLpduPhOj
— Fubo PR (@fuboTV_PR) January 6, 2025
รายละเอียดทางการเงิน
การทำดีลครั้งนี้มีเงื่อนไขทางการเงินที่น่าสนใจ ดังนี้:
- Disney, Fox และ Warner Bros. Discovery จะจ่ายเงิน 220 ล้านดอลลาร์ให้ Fubo
- Disney จะให้เงินกู้เพิ่มเติมอีก 145 ล้านดอลลาร์แก่ Fubo
- หากดีลล้มเหลว Disney จะต้องจ่าย 130 ล้านดอลลาร์ให้ Fubo
การควบรวมครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 12-18 เดือน หลังจากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
สำหรับผู้บริโภค การควบรวมนี้อาจนำมาซึ่งทางเลือกใหม่ๆ ในการรับชมคอนเทนต์ที่หลากหลายในราคาที่เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนกีฬาที่กำลังรอคอยบริการสตรีมมิ่งเฉพาะทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา