นักพัฒนาชั้นนำ “ไม่พอใจ” การตอบสนองของ Apple ต่อกฎ DMA ของสหภาพยุโรป

Devs blast Apple's weak DMA compliance

สื่อดิจิทัลกำลังเดือดร้อนอีกครั้ง! Apple ส่อแววละเมิดกฎหมาย DMA ของสหภาพยุโรป ด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใหม่จากนักพัฒนาแอป แม้จะอนุญาตให้นักพัฒนาสามารถนำผู้ใช้ไปซื้อสินค้านอกแอปสโตร์ได้ แต่ก็ยังคงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงถึง 25% ในปีแรก สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดานักพัฒนารายใหญ่อย่าง Epic Games และ Spotify

Apple เพิ่มค่าธรรมเนียมใหม่ แม้ซื้อนอกแอปสโตร์

ตามที่สหภาพยุโรปได้ออกกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันในตลาดแอปสโตร์มากขึ้น Apple จึงได้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้นักพัฒนาสามารถนำผู้ใช้ไปซื้อสินค้าและบริการนอกแอปสโตร์ได้ โดยจะเริ่มมีผลในฤดูใบไม้ร่วงนี้

อย่างไรก็ตาม Apple ก็ได้แอบแฝงค่าธรรมเนียมใหม่เข้ามาด้วย ได้แก่:

  • ค่าธรรมเนียมบริการร้านค้า (Store Services Fee) 20% สำหรับแอปที่มีเฉพาะใน App Store
  • ค่าธรรมเนียม 10% สำหรับแอปที่ขายผ่านร้านค้าอื่นด้วย
  • ค่าธรรมเนียมเริ่มต้น (Initial Acquisition Fee) 5% สำหรับการซื้อสินค้าดิจิทัลและบริการบนทุกแพลตฟอร์มภายใน 1 ปีหลังติดตั้งแอป

ซึ่งหมายความว่า Apple จะได้รับส่วนแบ่งถึง 25% ในปีแรก แม้ผู้ใช้จะซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของนักพัฒนาเองก็ตาม

นักพัฒนารายใหญ่ไม่พอใจ

Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ได้ออกมาวิจารณ์ว่า:

“ในสหภาพยุโรปที่กฎหมาย DMA ใหม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันในตลาดแอปสโตร์ Apple ยังคงใช้วิธีการที่เป็นอันตรายโดยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมขยะ 15% อย่างผิดกฎหมายจากผู้ใช้ที่ย้ายไปใช้ร้านค้าคู่แข่ง และยังติดตามการซื้อขายบนร้านค้าเหล่านั้นด้วย”

ด้าน Spotify ก็ได้ออกแถลงการณ์ผ่านโฆษก Jeanne Moran ว่า:

“เรากำลังประเมินข้อเสนอที่สร้างความสับสนโดยเจตนาของ Apple อีกครั้ง Apple ละเลยข้อกำหนดพื้นฐานของ DMA อย่างโจ่งแจ้ง คณะกรรมาธิการยุโรปได้ระบุชัดเจนว่าการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมซ้ำๆ สำหรับองค์ประกอบพื้นฐานอย่างการกำหนดราคาและการลิงก์นั้นไม่สามารถยอมรับได้ เราขอให้คณะกรรมาธิการเร่งการสอบสวน ออกค่าปรับรายวัน และบังคับใช้ DMA โดยเร็ว”

ท่าทีของ Apple

Apple อ้างว่าค่าธรรมเนียมเหล่านี้สะท้อนถึงมูลค่าและบริการที่ App Store มอบให้กับนักพัฒนาในการเข้าถึงผู้บริโภคในสหภาพยุโรป รวมถึงบริการและความสามารถต่างๆ ที่ Apple จัดหาให้นักพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าคณะกรรมาธิการยุโรปจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Apple อย่างไร ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีบทสรุปเป็นอย่างไร

Facebook Comments Box

Leave a Reply