เทคโนโลยี AI กำลังเป็นสมรภูมิแห่งใหม่ระหว่างยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนและสหรัฐฯ โดยล่าสุด Huawei กำลังจะทดสอบชิป AI รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า Ascend 910D ซึ่งมีเป้าหมายที่จะท้าชนกับ Nvidia ผู้นำตลาดชิป AI ของโลก แม้จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ แต่ Huawei ก็ไม่ย่อท้อ พร้อมลุยตลาด AI อย่างเต็มที่
Huawei เตรียมทดสอบชิป AI รุ่นใหม่ Ascend 910D
Huawei กำลังจะเริ่มทดสอบชิป AI รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า Ascend 910D โดยคาดว่าจะเริ่มได้รับตัวอย่างชิปในเดือนหน้า แม้ว่าจะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่ Huawei ก็หวังว่าชิปรุ่นนี้จะสามารถเอาชนะประสิทธิภาพของ Nvidia H100 ซึ่งเป็นชิป AI ชั้นนำที่ใช้ในการฝึกฝนระบบ AI ได้
ชิป Ascend 910D นี้ถือเป็นชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของ Huawei จนถึงปัจจุบัน โดยบริษัทได้ขอให้บริษัทเทคโนโลยีจีนรายอื่นๆ ช่วยทดสอบชิปนี้ด้วย
ความท้าทายจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
แม้ว่า Huawei จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่ห้ามส่งชิปเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับบริษัท แต่ Huawei ก็ยังคงพยายามพัฒนาชิปของตัวเองต่อไป โดยได้ใช้เทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่สามารถรวมแผ่นซิลิคอนได้มากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้
อย่างไรก็ตาม Huawei ยังคงเผชิญกับข้อจำกัดทางเทคโนโลยี เนื่องจาก:
- โรงงานผลิตชิปของจีนไม่สามารถซื้อเครื่องจักร EUV ที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิปขนาดต่ำกว่า 7nm ได้
- ชิป Ascend 910D ต้องผลิตบนกระบวนการ 7nm ของ SMIC ซึ่งใหญ่กว่าชิป 4nm ของ Nvidia
- ทำให้ชิปของ Huawei อาจมีประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานด้อยกว่า Nvidia
ผลกระทบที่ไม่คาดคิดจากมาตรการคว่ำบาตร
“มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กลับส่งผลย้อนกลับมาทำร้าย Nvidia เอง เมื่อวอชิงตันสั่งห้าม Nvidia ขายชิป H20 AI ในจีนโดยไม่มีใบอนุญาต ทำให้ Nvidia ต้องขาดทุนถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์”
ประเด็นที่น่าสนใจคือ การที่สหรัฐฯ ห้าม Nvidia ขายชิป H20 ในจีน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อลงโทษจีนและป้องกันไม่ให้ได้รับชิป AI ขั้นสูง กลับส่งผลเสียต่อ Nvidia เอง และกลับเป็นผลดีต่อ Huawei ที่จะสามารถขายชิป AI ในจีนได้มากขึ้น
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความสามารถของชิป AI ของ Huawei:
- บางคนเชื่อว่าชิป Ascend ของ Huawei ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับ Nvidia ได้
- วิศวกรที่ใช้ทั้งชิป Ascend 910C และ Nvidia H100 รายงานว่าประสิทธิภาพของ Huawei ยังไม่ทัดเทียม Nvidia
แม้จะเผชิญความท้าทายมากมาย แต่ Huawei ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชิป AI ของตัวเองต่อไป เพื่อแข่งขันในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การแข่งขันนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของเทคโนโลยี AI และความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในอนาคตอย่างแน่นอน