สมาร์ทโฟนระดับกลางกำลังจะมีคู่แข่งหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง! Xiaomi เตรียมเปิดตัว Redmi Turbo 4 Pro ที่มาพร้อมชิป Snapdragon 8s Elite ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งอาจทำให้ Galaxy A56, iPhone 16e และ Pixel 9a ต้องหนาวๆ กันเลยทีเดียว
แม้ว่าสมาร์ทโฟนเรือธงจะยังคงเป็นที่สนใจของผู้บริโภคเสมอ แต่ในช่วงหลังมานี้ สมาร์ทโฟนระดับกลางหรือที่เรียกว่า “flagship killer” ก็กำลังมาแรงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Pixel 9a, iPhone 16e หรือแม้แต่ Galaxy A Series ของ Samsung ที่กำลังทำยอดขายได้ดีกว่ารุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S25 เสียอีก และล่าสุด Xiaomi กำลังจะเข้ามาร่วมวงด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
Redmi Turbo 4 Pro มาพร้อมสเปคระดับเรือธง แต่ราคาเบาๆ
ตามข่าวลือล่าสุด Xiaomi กำลังจะเปิดตัว Redmi Turbo 4 Pro ในเดือนเมษายนนี้ โดยอาจใช้ชื่อ Poco F7 Pro ในตลาดต่างประเทศ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้อาจมีราคาถูกกว่า Galaxy A56 และ Pixel 9a ที่เริ่มต้นที่ $499 หรือ iPhone 16e ที่ราคา $599 ถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
Redmi Turbo 4 Pro จะเป็นรุ่นแรกในซีรีส์ Turbo ที่มาพร้อมสเปคระดับ “Pro” โดยคาดว่าจะมาพร้อมกับ:
- ชิปเซ็ต Snapdragon 8s Elite
- หน้าจอ LTPS OLED ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด 1220p รีเฟรชเรต 120Hz ความสว่างสูงสุด 3,200 นิต
- กล้องหลังคู่ ความละเอียด 50MP (เซ็นเซอร์ Sony LYT-600) พร้อม OIS และกล้องมุมกว้าง 8MP
- กล้องหน้าความละเอียด 20MP
- แบตเตอรี่ขนาด 6,550 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 90W

Snapdragon 8s Elite – ชิปเซ็ตระดับกลางที่ทรงพลัง
ไฮไลท์สำคัญของ Redmi Turbo 4 Pro คือชิปเซ็ต Snapdragon 8s Elite ซึ่งเป็นรุ่นย่อยของ Snapdragon 8 Elite ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนเรือธง โดยมีสถาปัตยกรรม 8 คอร์ ประกอบด้วย:
- คอร์ Cortex-X4 ความเร็ว 3.21GHz
- คอร์ Cortex-A720 สำหรับประสิทธิภาพ 3 คอร์ ความเร็ว 3.01GHz
- คอร์ Cortex-A720 สำหรับประหยัดพลังงาน 2 คอร์ ความเร็ว 2.80GHz
- คอร์ประหยัดพลังงานอีก 2 คอร์ ความเร็ว 2.02GHz
คาดว่าชิปเซ็ตนี้จะให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Snapdragon 8 Gen 3 แม้จะไม่ถึงขั้น Snapdragon 8 Elite แต่ก็ถือว่าทรงพลังมากสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง
“Redmi Turbo 4 Pro อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้”
การมาของ Redmi Turbo 4 Pro อาจทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางสั่นสะเทือน และผู้บริโภคอาจได้เห็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคระดับเรือธงในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างแน่นอน เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า Xiaomi จะสามารถทำให้ Redmi Turbo 4 Pro เป็น “flagship killer” ตัวจริงได้หรือไม่