OnePlus 13R: สมาร์ทโฟนกลางปี 2025 ที่คุ้มค่าที่สุดในราคาเพียง $500

Best 2025 phone under $500: Surprising budget flagship

สมาร์ทโฟนระดับกลางที่ดีที่สุดแห่งปี 2025 อาจไม่ใช่รุ่นที่คุณคิด! แม้จะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวมากมายในช่วงครึ่งปีแรก แต่มีหนึ่งรุ่นที่ยังคงโดดเด่นและน่าสนใจไม่แพ้ใคร นั่นคือ OnePlus 13R ที่เปิดตัวตั้งแต่ต้นปี ด้วยราคาเพียง $500 (หลังหักส่วนลด) แต่มาพร้อมสเปคระดับแฟลกชิป

OnePlus 13R ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าซื้อที่สุดในปี 2025 แม้จะผ่านมา 6 เดือนแล้ว ด้วยจุดเด่นหลายประการที่เหนือกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Pixel 9a, iPhone 16e หรือ Galaxy A56 5G มาดูกันว่าทำไม OnePlus 13R ถึงยังคงน่าสนใจแม้จะไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด

สเปคระดับแฟลกชิปในราคาระดับกลาง

OnePlus 13R มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับท็อปในปัจจุบัน ทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของ GPU ที่ทำคะแนนทดสอบ 3DMark Extreme สูงถึง 4,748 คะแนน ซึ่งสูงกว่า Pixel 9a และ iPhone 16e อย่างมาก

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ CPU:

รุ่นGeekbench 6 Single-coreGeekbench 6 Multi-core
OnePlus 13R2,2186,714
Pixel 9a1,6874,385
Galaxy A56 5G1,3613,894
iPhone 16e3,1667,763

จะเห็นได้ว่า OnePlus 13R มีประสิทธิภาพสูงกว่า Pixel 9a และ Galaxy A56 5G อย่างชัดเจน แม้จะยังตามหลัง iPhone 16e อยู่บ้างในส่วนของ CPU แต่ก็ทำคะแนน GPU ได้สูงกว่ามาก

จอภาพคุณภาพสูงระดับแฟลกชิป

OnePlus 13R มาพร้อมจอภาพ ProXDR AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล ซึ่งเป็นจอภาพคุณภาพสูงเทียบเท่ารุ่นท็อป OnePlus 13 เลยทีเดียว

ผลการทดสอบจอภาพ:

  • ความสว่างสูงสุด: 2,384 nits
  • ค่า Delta E grayscale: 3.82

ความสว่างสูงสุดของ OnePlus 13R นั้นสูงกว่าคู่แข่งอย่าง Galaxy A56 5G (1,715 nits) และ iPhone 16e (791 nits) อย่างมาก แม้จะยังตามหลัง Pixel 9a (2,561 nits) อยู่เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าสว่างมากเพียงพอสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง

นอกจากนี้ค่า Delta E grayscale ที่ต่ำแสดงถึงความแม่นยำของสีที่ดีเยี่ยม ซึ่งดีกว่า Pixel 9a (5.76) และ Galaxy A56 5G (7.4) อย่างชัดเจน

กล้องหลังหลากหลายและมีประสิทธิภาพ

OnePlus 13R มาพร้อมกล้องหลัก 3 ตัว ได้แก่:

  • กล้องหลัก 50MP
  • กล้อง Ultrawide 8MP
  • กล้อง Telephoto 50MP

การเพิ่มกล้อง Telephoto เข้ามาแทนที่กล้อง Macro ทำให้ OnePlus 13R มีความสามารถในการซูมและถ่ายภาพ Portrait ที่ดีขึ้นอย่างมาก เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Pixel 9a ที่ต้องพึ่งพาการซูมแบบดิจิทัล หรือ iPhone 16e ที่มีเพียงกล้องเดียว

แม้กล้อง Ultrawide จะยังเป็นจุดอ่อนอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ดีในระดับราคานี้ โดยรวมแล้ว OnePlus 13R มีระบบกล้องที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลางปี 2025

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่และชาร์จเร็วสุดในคลาส

OnePlus 13R มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 6,000 mAh ซึ่งใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ทำให้มีเวลาใช้งานยาวนานถึง 7 ชั่วโมง 22 นาที ตามการทดสอบของ PhoneArena

แม้จะยังตามหลัง Pixel 9a ที่ทำได้ 8 ชั่วโมง 11 นาที แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ iPhone 16e ที่ทำได้เพียง 6 ชั่วโมง 4 นาทีเท่านั้น

จุดเด่นสำคัญคือความเร็วในการชาร์จ โดย OnePlus 13R รองรับการชาร์จเร็ว 80W ทำให้ชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 56 นาที ซึ่งเร็วกว่าคู่แข่งอย่าง Pixel 9a (1 ชั่วโมง 42 นาที) และ iPhone 16e (1 ชั่วโมง 41 นาที) อย่างมาก

OxygenOS 15: ลูกเล่นครบครันแต่ไม่รกรุงรัง

OxygenOS 15 บน OnePlus 13R นั้นมีความสมดุลระหว่างฟีเจอร์ที่มีประโยชน์และความเรียบง่ายในการใช้งาน โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ เช่น:

  • Task Prediction
  • การแปลภาษาแบบเรียลไทม์
  • โหมดเกมที่ปรับแต่งได้มากกว่าคู่แข่ง

นอกจากนี้ OnePlus ยังรับประกันการอัปเดต Android นาน 4 ปี และอัปเดตความปลอดภัยนาน 6 ปี ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่งชั้นนำ

แต่เป็นไปได้ว่านี่คือโทรศัพท์ที่คุ้มค่าเงินที่สุดสำหรับปี 2025 | ภาพโดย PhoneArena

สรุป: คุ้มค่าที่สุดในปี 2025

แม้จะมีข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ เช่น ไม่มีการชาร์จไร้สาย หรือการกันน้ำที่ไม่ดีเท่ารุ่นท็อป แต่โดยรวมแล้ว OnePlus 13R ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2025 ด้วยสเปคระดับแฟลกชิป จอภาพคุณภาพสูง กล้องที่หลากหลาย แบตเตอรี่อึด และการชาร์จที่รวดเร็ว ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง $500 เท่านั้น

หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ครบเครื่องที่สุดในปีนี้ OnePlus 13R น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่คุณไม่ควรมองข้าม แม้จะไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด แต่ก็ยังคงความคุ้มค่าไว้ได้อย่างน่าทึ่ง

Facebook Comments Box

Leave a Reply