เตรียมตัวให้พร้อม ผู้ใช้บริการ AT&T ในลอสแองเจลิสอาจต้องอดทนอีกนาน! เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อบริการโทรศัพท์มือถือของ AT&T ในย่านคัลเวอร์ซิตี้ล่มไปตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน และยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาใช้งานได้เร็วๆ นี้
ทีแรกทาง AT&T บอกว่าจะแก้ไขปัญหาได้ในเร็ววัน แต่ล่าสุดกลับประกาศว่าต้องใช้เวลาถึง 2 เดือนกว่าจะซ่อมแซมระบบเสร็จ โดยคาดว่าจะกลับมาใช้งานได้ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ นับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การให้บริการโทรคมนาคมของสหรัฐฯ
สาเหตุของปัญหายังไม่ชัดเจน
ถึงแม้จะเกิดปัญหาขึ้นมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว แต่ทาง AT&T ก็ยังไม่ได้ชี้แจงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานี้ มีการคาดเดากันว่าอาจเกิดจาก:
- สายเคเบิลได้รับความเสียหายจากการก่อสร้าง
- เสาสัญญาณต้องซ่อมแซมครั้งใหญ่
- ระบบเซิร์ฟเวอร์ล่ม
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่ยืนยันข้อมูลใดๆ ทำให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบต้องรอลุ้นกันต่อไป

ผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบอย่างหนัก
แม้จะไม่ทราบจำนวนผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบแน่ชัด แต่จากแผนที่แสดงพื้นที่ที่สัญญาณล่ม พบว่าครอบคลุมบริเวณกว้างพอสมควร ส่งผลให้ผู้ใช้บริการต้องปรับตัวกันอย่างหนัก เช่น:
- ต้องไปใช้ Wi-Fi ตามร้านกาแฟแทน
- ทำงานจากบ้านไม่ได้ ต้องหาที่ทำงานใหม่ชั่วคราว
- ติดต่อสื่อสารลำบาก โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉิน
- ธุรกิจที่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตอาจสูญเสียรายได้
“ผมต้องไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟทุกวัน เพราะที่บ้านไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ ไม่รู้จะทนได้ไหวอีก 6 สัปดาห์”
คุณจอห์น ผู้ใช้บริการ AT&T ที่ได้รับผลกระทบ
อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระยะยาว
การที่บริการล่มนานถึง 2 เดือน อาจส่งผลเสียต่อ AT&T ในระยะยาวได้ เช่น:
- ลูกค้าอาจเปลี่ยนไปใช้บริการเครือข่ายอื่นแทน
- ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียหาย ถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพ
- อาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ใช้บริการ
- รายได้ลดลงเนื่องจากต้องชดเชยค่าบริการให้ลูกค้า
ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ AT&T และผู้ให้บริการรายอื่นๆ ควรนำไปปรับปรุงระบบให้มีความเสถียรมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต
เราจะติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และหวังว่า AT&T จะสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้บริการโดยเร็วที่สุด