เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านอย่างรวดเร็ว แต่กฎหมายใหม่ในนิวยอร์กกำลังสร้างความท้าทายให้ผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง AT&T ที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญเกี่ยวกับการให้บริการในพื้นที่
AT&T ถอนตัวจากตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านในนิวยอร์ก เหตุกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้
AT&T ได้ประกาศยุติการให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้าน 5G ที่เรียกว่า Internet Air ในรัฐนิวยอร์ก หลังจากที่กฎหมาย Affordable Broadband Act (ABA) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา
กฎหมาย ABA คืออะไร?
ABA เป็นกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตต้องเสนอแพ็กเกจราคาถูกให้กับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- แพ็กเกจราคา $15 ต่อเดือน สำหรับความเร็ว 25 Mbps
- แพ็กเกจราคา $20 ต่อเดือน สำหรับความเร็ว 200 Mbps
- ราคาต้องรวมค่าภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าเช่าอุปกรณ์ทั้งหมด
- ใช้ได้เฉพาะครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือของรัฐ เช่น โครงการอาหารกลางวันโรงเรียน SNAP หรือ Medicaid
ผู้ให้บริการรายย่อยที่มีลูกค้าน้อยกว่า 20,000 ราย สามารถขอยกเว้นได้หากพิสูจน์ได้ว่าจะประสบปัญหาทางการเงิน
ทำไม AT&T ถึงตัดสินใจถอนตัว?
AT&T ให้เหตุผลว่า:
“กฎหมายบรอดแบนด์ใหม่นี้กำหนดการควบคุมราคาที่เป็นอันตราย และทำให้การลงทุนและขยายโครงสร้างพื้นฐานของ AT&T ในรัฐไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจอีกต่อไป”
บริการ Internet Air ของ AT&T เปิดตัวในปี 2023 โดยคิดค่าบริการ $60 ต่อเดือน (หรือ $47 หากจับคู่กับแพ็กเกจมือถือ AT&T) ปัจจุบันให้บริการในเกือบทุกรัฐ
อย่างไรก็ตาม นิวยอร์กไม่ใช่พื้นที่หลักในเครือข่ายสายของ AT&T อยู่แล้ว จึงไม่ยากที่จะตัดสินใจถอนตัว
ผลกระทบต่อลูกค้า
- ลูกค้าปัจจุบันมีเวลา 45 วันในการหาผู้ให้บริการรายใหม่
- ระหว่างนี้สามารถใช้บริการได้ฟรี
- หลังจากนั้น AT&T จะส่งชุดส่งคืนอุปกรณ์ 5G
สำหรับบริการมือถือของ AT&T รวมถึงเครือข่าย 4G และ 5G ในนิวยอร์กยังคงให้บริการตามปกติ
มองไปข้างหน้า: คู่แข่งจะตอบสนองอย่างไร?
ในขณะที่ AT&T ถอนตัว ทุกสายตาจับจ้องไปที่คู่แข่งรายใหญ่อย่าง Verizon และ T-Mobile ว่าจะรับมือกับกฎหมายใหม่นี้อย่างไร
- Verizon มีแพ็กเกจราคาประหยัดสำหรับครัวเรือนรายได้น้อยอยู่แล้ว ซึ่งอาจสอดคล้องกับข้อกำหนดของ ABA
- T-Mobile ที่มีแผนขยายบริการ 5G อย่างทะเยอทะยาน อาจใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดบรอดแบนด์ในนิวยอร์ก
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมราคาเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ กับการสร้างแรงจูงใจให้บริษัทลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เราจะได้เห็นว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ จะปรับตัวอย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้