สถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่อย่าง AT&T ในสหรัฐอเมริกา เมื่อระบบล่มในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อลูกค้าจำนวนมากที่ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังลามไปถึงเครือข่ายพันธมิตรอย่าง Cricket Wireless และ Boost Mobile ด้วย
สถานการณ์ล่าสุดของ AT&T
ตามรายงานของเว็บไซต์ Downdetector ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มติดตามปัญหาการใช้งานบริการออนไลน์ต่างๆ พบว่าจำนวนรายงานปัญหาจากผู้ใช้ AT&T เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 143 รายงานเมื่อเวลา 12:38 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ เป็น 4,030 รายงานในเวลาเพียง 30 นาทีต่อมา
โดยปัญหาที่พบมากที่สุดคือ:
- 68% มีปัญหาเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ
- 17% ประสบปัญหาอินเทอร์เน็ตมือถือ
- 15% พบปัญหาอินเทอร์เน็ตบ้าน
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่เมืองใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เช่น ลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก และซาคราเมนโต รวมถึงเมืองสำคัญอื่นๆ อย่างดัลลัส ซานโฮเซ ฮิวสตัน เฟรสโน ซานอันโตนิโอ และชิคาโก
ผลกระทบต่อเครือข่ายพันธมิตร
เนื่องจาก AT&T เป็นเจ้าของ Cricket Wireless และให้บริการเครือข่ายแก่ Boost Mobile บางส่วน ทำให้ลูกค้าของทั้งสองเครือข่ายนี้ได้รับผลกระทบไปด้วย โดย Downdetector รายงานว่า:
- Cricket Wireless: จำนวนรายงานปัญหาเพิ่มจาก 10 เป็น 557 ภายในเวลา 1 ชั่วโมง
- 49% มีปัญหาใช้งานโทรศัพท์มือถือ
- 36% ไม่มีสัญญาณ
- 14% ไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือได้
- Boost Mobile: จำนวนรายงานปัญหาเพิ่มจาก 6 เป็น 75 ภายในเวลา 30 นาที
- 50% มีปัญหากับโทรศัพท์มือถือ
- 32% มีปัญหาใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือ
- 18% ไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้
สถานการณ์ล่าสุด
ณ เวลา 16:20 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออก Downdetector ได้อัปเดตสถานะของ AT&T จาก “ผู้ใช้รายงานปัญหาที่ AT&T” เป็น “รายงานจากผู้ใช้บ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นที่ AT&T” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว
สำหรับ Boost Mobile และ Cricket Wireless ไม่พบรายงานปัญหาเพิ่มเติมแล้วในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ใช้บางส่วนของ AT&T ที่ประสบปัญหาอยู่ โดยมีการโพสต์ข้อความร้องเรียนบนหน้า AT&T Help ในทวิตเตอร์ เช่น
“มีใครเจอปัญหาโทรศัพท์เข้าสู่โหมด SOS บ้างไหม? ปัญหา AT&T นี้กว้างขนาดไหน? ผมกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนแล้วสัญญาณหลุดทั้งคู่เลย ต้องขับรถไปจอดที่ Starbucks เพื่อใช้ Wi-Fi”
“ใครกำลังประสบปัญหากับ AT&T อยู่บ้าง?”
แม้ว่าสถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้น แต่ Downdetector ยังไม่ได้ประกาศว่าปัญหาได้รับการแก้ไขทั้งหมดแล้ว เนื่องจากยังมีรายงานปัญหาจากผู้ใช้ AT&T บางส่วนอยู่ ดิฉันจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไปค่ะ