สุดปัง! iPhone 17 อาจใช้ชิป 5G MediaTek แทน Qualcomm ในรุ่นหลัก

Apple's iPhone 17 5G modem chip surprise revealed in new report

เทคโนโลยี 5G กำลังก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว และบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ก็ไม่ยอมตกขบวนแน่นอน ล่าสุดมีรายงานที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิปโมเด็ม 5G ที่ Apple จะใช้ในไอโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งอาจสร้างความประหลาดใจให้กับวงการเทคโนโลยีอย่างมาก

Apple เตรียมเปลี่ยนชิปโมเด็ม 5G ในไอโฟน 17

จากรายงานล่าสุด Apple มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับชิปโมเด็ม 5G ที่ใช้ในไอโฟนรุ่น 17 โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • iPhone 17e และ iPhone 17 Air จะใช้ชิปโมเด็ม 5G รุ่น C1 ที่ Apple พัฒนาขึ้นเอง
  • ไอโฟน 17 รุ่นอื่นๆ จะใช้ชิปโมเด็ม 5G จาก MediaTek แทนที่จะเป็น Qualcomm Snapdragon เหมือนรุ่นก่อนหน้า

นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจาก Apple เคยใช้ชิป Qualcomm Snapdragon มาโดยตลอดในไอโฟนรุ่นก่อนๆ การตัดสินใจครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า Apple มีความมั่นใจในชิป C1 ที่พัฒนาขึ้นเองมากขึ้น และต้องการลดการพึ่งพา Qualcomm ลง

iPhone 16e เป็น iPhone รุ่นแรกที่ใช้ชิปโมเด็ม C1 5G ของ Apple | เครดิตภาพ-Apple

จุดเด่นของชิปโมเด็ม 5G รุ่น C1 ของ Apple

ชิป C1 ที่ Apple พัฒนาขึ้นเองมีจุดเด่นหลายประการ ได้แก่:

  • ใช้กระบวนการผลิตขนาด 4nm สำหรับ baseband modem และ 7nm สำหรับ transceiver
  • ผ่านการทดสอบกับเครือข่ายมือถือ 180 แห่งใน 55 ประเทศ
  • สามารถเลือกเชื่อมต่อเครือข่ายที่เหมาะสมที่สุดตามการใช้งาน เช่น เลือกเครือข่ายที่ดีที่สุดสำหรับ AirDrop

อย่างไรก็ตาม ชิป C1 รุ่นแรกยังไม่รองรับสัญญาณ mmWave ความเร็วสูง ซึ่ง Apple วางแผนจะเพิ่มความสามารถนี้ในรุ่นที่ 2 ที่จะใช้ในไอโฟน 18

แผนการในอนาคตของ Apple สำหรับชิปโมเด็ม 5G

Apple มีเป้าหมายที่ท้าทายสำหรับชิปโมเด็ม 5G ในอนาคต:

  • ปี 2026: ใช้ชิป C1 รุ่นที่ 2 ในไอโฟนทุกรุ่น พร้อมรองรับ mmWave และเทคโนโลยีขั้นสูงของเครือข่าย 5G
  • ปี 2027: พัฒนาชิป C1 ให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Qualcomm ทั้งในด้านความเร็วและความสามารถด้าน AI
  • อนาคต: รวมชิปประมวลผลหลักและชิปโมเด็มเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างชิปที่ทรงพลังและยืดหยุ่นมากขึ้น

“ชิป C1 คือเทคโนโลยีที่ซับซ้อนที่สุดที่ Apple เคยออกแบบมา” – Johny Srouji, รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของ Apple

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยให้ Apple ลดการพึ่งพา Qualcomm และประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ได้อย่างมาก นับเป็นก้าวสำคัญของ Apple ในการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ด้วยตัวเอง ซึ่งจะส่งผลต่อวงการสมาร์ทโฟนอย่างแน่นอนในอนาคต

Facebook Comments Box

Leave a Reply