สมาร์ทโฟนในอนาคตของ Apple อาจจะไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แม้บริษัทจะทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปกับการพัฒนาโมเด็มเซลลูลาร์ของตัวเอง ตามรายงานล่าสุดจาก Mark Gurman นักวิเคราะห์ชื่อดังของ Bloomberg
โมเด็มเซลลูลาร์เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สมาร์ทโฟนสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายมือถือได้ ไม่ว่าจะเป็น 4G, 5G หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคต ปัจจุบัน Apple ใช้โมเด็มจาก Qualcomm ในอุปกรณ์ของตน แต่ก็พยายามที่จะพัฒนาชิ้นส่วนนี้ขึ้นมาเองมาตั้งแต่ปี 2018
ทำไม Apple ถึงอยากมีโมเด็มของตัวเอง?
มีหลายเหตุผลที่ Apple อาจต้องการพัฒนาโมเด็มเซลลูลาร์ขึ้นมาเอง:
- เพื่อลดการพึ่งพา Qualcomm และประหยัดค่าใช้จ่าย
- สามารถควบคุมการออกแบบและการผลิตได้เอง
- ใช้เป็นจุดขายทางการตลาดว่ามีชิ้นส่วนที่ผลิตเองทั้งหมด
- อาจพัฒนาเป็นชิปรวมที่จัดการฟังก์ชันไร้สายทั้งหมด เช่น WiFi และ Bluetooth
อย่างไรก็ตาม Gurman มองว่าการมีโมเด็มของตัวเองอาจไม่ได้ช่วยให้อุปกรณ์ของ Apple ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโมเด็มของ Qualcomm ก็มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว
ความท้าทายในการพัฒนาโมเด็มของ Apple
แม้จะทุ่มเทเวลาและทรัพยากรมากมาย แต่ Apple ก็ยังไม่สามารถผลิตโมเด็มที่น่าพอใจได้ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยมักประสบปัญหาด้านประสิทธิภาพและความร้อน
“ทีมพัฒนาโมเด็มของ Apple เป็นทีมเดียวกับที่สร้างชิป M-series อันน่าประทับใจสำหรับ Mac และ iPad แต่การพัฒนาโมเด็มกลับเป็นงานที่ท้าทายกว่ามาก” – Mark Gurman
นอกจากนี้ Qualcomm ยังถือครองสิทธิบัตรสำคัญๆ มากมาย ทำให้ Apple อาจยังต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์อยู่ดี แม้จะมีโมเด็มของตัวเองแล้วก็ตาม
มุมมองต่ออนาคต
แม้ว่าตอนนี้การพัฒนาโมเด็มของ Apple อาจจะยังไม่ส่งผลดีชัดเจน แต่ในระยะยาวอาจเป็นประโยชน์ต่อบริษัทได้ โดยเฉพาะหากสามารถพัฒนาเป็นชิปรวมสำหรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดได้
อย่างไรก็ตาม iPhone ก็ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนชั้นนำในตลาด และคาดว่าจะยิ่งพัฒนาขึ้นไปอีกด้วยฟีเจอร์ AI และชิปประมวลผลรุ่นใหม่ในอนาคต ไม่ว่าจะใช้โมเด็มจากผู้ผลิตรายใดก็ตาม
การลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องของ Apple แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม แม้ว่าบางโครงการอาจไม่เห็นผลในทันที แต่ก็อาจสร้างความได้เปรียบในระยะยาวได้