แอปเปิลกดดันติ๊กต็อกเพิ่มอายุผู้ใช้ หวั่นเนื้อหาไม่เหมาะสมกระทบเยาวชน

Apple-urged-TikTok-to-raise-age-recommendations-leaked-lawsuit-reveals

เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียกำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเยาวชนอย่างน่าวิตก ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับ TikTok แอปพลิเคชันยอดนิยมที่กำลังเผชิญกับคดีฟ้องร้องจาก 14 รัฐในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ที่เป็นเยาวชน

Apple กดดัน TikTok ให้เพิ่มข้อจำกัดอายุผู้ใช้งาน

จากข้อมูลที่รั่วไหลออกมาจากเอกสารคดีความในรัฐเซาท์แคโรไลนา เผยให้เห็นว่า Apple ได้พยายามกดดัน TikTok อย่างลับๆ ให้เพิ่มข้อจำกัดอายุผู้ใช้งานจาก 12 ปีเป็น 17 ปีขึ้นไป โดยในปี 2022 ทีมงานของ Apple ได้ตรวจสอบการจัดเรตอายุของ TikTok และพบว่ามี “เนื้อหาที่รุนแรงหรือยั่วยุ” อยู่บ่อยครั้ง

Apple จึงได้ร้องขอให้ TikTok ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับแนวทางการตรวจสอบแอปของ App Store อย่างไรก็ตาม รายละเอียดทั้งหมดของคำร้องขอนี้ยังไม่เป็นที่เปิดเผย เนื่องจากข้อมูลบางส่วนถูกปิดบังไว้

พนักงาน TikTok เองก็มีความกังวล

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าพนักงานของ TikTok เองก็มีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการจำกัดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการใช้คำหยาบและเนื้อหาเกี่ยวกับโรคการกินผิดปกติ จากข้อมูลพบว่า 1 ใน 50 ของข้อความแจ้งเตือนที่แสดงแก่ผู้เยาว์ในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรในช่วงเวลาหนึ่งเดือนมีการใช้คำหยาบคาย

TikTok ปฏิเสธข้อกล่าวหา

ทาง TikTok ได้ออกมาปฏิเสธข้อมูลที่รั่วไหลนี้ โดยโฆษกของบริษัทกล่าวว่าการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกปิดบังเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบ และอ้างว่าปัญหาหลายอย่างได้รับการแก้ไขไปแล้ว

ผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้

“TikTok พบว่าการใช้งานแบบเสพติดมีความสัมพันธ์กับผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพจิต เช่น การลดลงของทักษะการวิเคราะห์ การจดจำ และความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า TikTok ทราบดีว่าเครื่องมือจำกัดเวลาการใช้งานของตนไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับผู้เยาว์

มุมมองส่วนตัว: อุตสาหกรรมโซเชียลมีเดียต้องรับผิดชอบ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ดิฉันมองว่าไม่ใช่แค่ TikTok เท่านั้นที่ควรถูกตำหนิ แต่อุตสาหกรรมโซเชียลมีเดียทั้งหมดควรให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้มากขึ้น

ทางออกหนึ่งที่น่าสนใจคือการใช้ระบบสมาชิกแบบเสียเงิน ซึ่งจะไม่มีโฆษณา ผู้ใช้สามารถเลือกเวลาเข้าใช้งานได้เอง ในขณะที่ผู้ให้บริการก็ได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการ นี่อาจเป็นวิธีที่ยุติธรรมและดีต่อสุขภาพมากกว่าสำหรับการใช้โซเชียลมีเดียในปัจจุบัน

ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง และจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาทางออกที่สมดุลระหว่างประโยชน์ทางธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นเยาวชน

Facebook Comments Box

Leave a Reply