สาวกแอปเปิลเตรียมตัวให้พร้อม! ราคา iPhone และอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple อาจจะปรับขึ้นในสหรัฐฯ เร็วๆ นี้ หลังจากที่มีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะประกาศมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 10% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ผลกระทบจากมาตรการนี้อาจทำให้ราคาสินค้า Apple ที่ผลิตในจีนและนำเข้ามาขายในสหรัฐฯ ต้องปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Apple Watch หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Apple
ทำความเข้าใจเรื่องภาษีนำเข้า
ภาษีนำเข้าหรือที่เรียกว่า “Tariff” คือภาษีที่บริษัทในสหรัฐฯ ต้องจ่ายเมื่อนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีทางเลือก 2 ทาง คือ:
- แบกรับภาระภาษีเอง ซึ่งจะส่งผลให้กำไรลดลง
- ผลักภาระให้ผู้บริโภคด้วยการขึ้นราคาสินค้า
ในกรณีนี้ หากบริษัทเลือกที่จะขึ้นราคา ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ก็จะต้องจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อสินค้านั้นๆ
ผลกระทบต่อ Apple และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
มาตรการภาษีนำเข้า 10% จากจีนนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ Apple เพียงบริษัทเดียว แต่ยังรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ที่นำเข้าสินค้าจากจีนด้วย ซึ่งอาจทำให้ราคาสินค้าเทคโนโลยีในตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในภาพรวม
อย่างไรก็ตาม ในอดีตที่ผ่านมา Tim Cook ซีอีโอของ Apple เคยสามารถโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีทรัมป์ยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับ iPhone ได้ โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้ Apple เสียเปรียบคู่แข่งอย่าง Samsung ซึ่งผลิตสมาร์ทโฟนในเกาหลีใต้
จะมีข้อยกเว้นหรือไม่?
“ขณะนี้ทางทำเนียบขาวยังไม่ได้ประกาศว่าจะมีการยกเว้นภาษีนำเข้าให้กับสินค้าใดบ้าง โดยรายละเอียดเพิ่มเติมจะมีการแถลงในวันพรุ่งนี้” – Karoline Leavitt โฆษกทำเนียบขาว
แม้ว่า Tim Cook จะเคยพบปะกับประธานาธิบดีทรัมป์หลายครั้งหลังการเลือกตั้งปี 2024 และยังบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สำหรับพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า iPhone จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าในครั้งนี้หรือไม่
สำหรับเหตุผลในการเก็บภาษีนำเข้าครั้งนี้ ทางทำเนียบขาวระบุว่าเป็นการตอบโต้ประเทศที่ปล่อยให้มีการลักลอบนำยาเสพติดประเภทเฟนทานิลเข้ามาในสหรัฐฯ ซึ่งคร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วหลายสิบล้านคน
