เทคโนโลยีการแปลภาษาแบบเรียลไทม์กำลังจะมาถึง AirPods ในเร็วๆ นี้แล้ว! หูฟังไร้สายยอดนิยมของ Apple จะได้รับฟีเจอร์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารข้ามภาษาได้อย่างราบรื่น แม้ว่าคู่แข่งอย่าง Google Pixel Buds จะมีฟีเจอร์นี้มานานหลายปีแล้วก็ตาม
AirPods พร้อมแปลภาษาแบบเรียลไทม์
ตามรายงานล่าสุด Apple กำลังพัฒนาฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์สำหรับ AirPods โดยจะเปิดตัวพร้อมกับ iOS 19 ในปลายปีนี้ ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสนทนากับคู่สนทนาที่พูดคนละภาษาได้อย่างราบรื่น โดยไม่จำเป็นต้องใช้ล่ามหรือแอปพลิเคชันแปลภาษาแยกต่างหาก
การทำงานของระบบจะเป็นดังนี้:
- เมื่อคู่สนทนาพูดภาษาสเปน ระบบจะแปลเป็นภาษาอังกฤษและส่งเสียงผ่าน AirPods ของผู้ใช้
- เมื่อผู้ใช้พูดภาษาอังกฤษตอบกลับ ระบบจะแปลเป็นภาษาสเปนและเล่นผ่านลำโพงของ iPhone
แม้ว่า Apple จะไม่ใช่รายแรกที่นำเสนอฟีเจอร์นี้ แต่การผนวกเข้ากับระบบนิเวศของ Apple จะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ iPhone และ AirPods
เทียบชั้น Google Pixel Buds
Google Pixel Buds มีฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์มาตั้งแต่ปี 2017 โดยสามารถแปลได้มากกว่า 40 ภาษา ดังนั้นการที่ Apple เพิ่งจะนำฟีเจอร์นี้มาใช้กับ AirPods อาจดูล่าช้าไปหน่อย อย่างไรก็ตาม Apple มีแอป Translate สำหรับ iPhone มาตั้งแต่ปี 2020 แล้ว
“การผนวกความสามารถด้านการแปลภาษาเข้ากับ AirPods จะช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถสื่อสารข้ามภาษาได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา” – นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมกล่าว
ส่วนหนึ่งของการอัปเดต iOS 19 ครั้งใหญ่
การเพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาให้กับ AirPods เป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต iOS 19 ครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง โดย Apple กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย รวมถึง:
- การปรับปรุงเทคโนโลยีการแปลภาษาให้แม่นยำยิ่งขึ้น
- การออกแบบ UI ใหม่ทั้งหมดสำหรับ iOS และ macOS
- ฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการได้ยินสำหรับ AirPods Pro 2
นอกจากนี้ Apple ยังอยู่ระหว่างพัฒนา AirPods รุ่นใหม่ๆ เช่น AirPods Pro 3 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปลายปีนี้เช่นกัน
สรุป
การเพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ให้กับ AirPods แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่รายแรกที่นำเสนอเทคโนโลยีนี้ แต่การผสานเข้ากับระบบนิเวศของ Apple จะช่วยให้ผู้ใช้ iPhone และ AirPods ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น เราจะได้เห็นว่าฟีเจอร์นี้จะทำงานได้ดีแค่ไหนเมื่อเปิดตัวจริงในปลายปีนี้
