สายการบินที่มีชื่อเสียงด้านการทำกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารหาย กำลังเริ่มใช้ข้อมูลจาก AirTag เพื่อติดตามกระเป๋าเหล่านั้นกลับมา นี่เป็นความก้าวหน้าที่น่าสนใจในวงการการบิน ที่อาจช่วยแก้ปัญหาการสูญหายของสัมภาระที่สร้างความปวดหัวให้กับผู้โดยสารมาอย่างยาวนาน
American Airlines เข้าร่วมโปรแกรมใช้ข้อมูล AirTag
สายการบิน American Airlines ได้เข้าร่วมโปรแกรมที่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลตำแหน่งจาก AirTag ของ Apple เพื่อติดตามกระเป๋าเดินทางที่สูญหาย ตามรายงานล่าสุด แม้ว่าทางสายการบินยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการก็ตาม
นี่เป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญ เนื่องจาก American Airlines เป็นสายการบินที่มีสถิติการจัดการกระเป๋าเดินทางผิดพลาดสูงที่สุดเมื่อเทียบกับสายการบินอื่นๆ ซึ่งสร้างความเสียหายให้บริษัทถึงปีละ 50 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อกระเป๋าที่จัดการผิดพลาด

ทำไม American Airlines จึงต้องการระบบติดตามกระเป๋าที่ดีขึ้น
สาเหตุที่ American Airlines ประสบปัญหาในการจัดการกระเป๋าเดินทางมีหลายประการ:
- ผู้บริหารระดับสูงไม่เห็นความสำคัญของการลงทุนในเทคโนโลยีติดตามกระเป๋า
- ศูนย์เปลี่ยนเครื่องหลายแห่งยังใช้เทคโนโลยีล้าสมัย ทำให้การอัพเกรดทั้งระบบเป็นเรื่องท้าทาย
- ขาดการลงทุนในการปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง
การใช้ข้อมูลจาก AirTag จึงเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดในการแก้ปัญหานี้ โดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งหมด
ประโยชน์ของ AirTag สำหรับผู้โดยสาร
แม้ว่าโอกาสที่กระเป๋าจะสูญหายมีไม่ถึง 1% และส่วนใหญ่จะพบภายใน 24 ชั่วโมง แต่ AirTag ก็ยังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่:
- เดินทางบ่อย
- นำของมีค่าติดตัวไปด้วย เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องประดับ
AirTag ช่วยให้ทั้งผู้โดยสารและสายการบินสามารถระบุตำแหน่งของกระเป๋าที่หายหรือล่าช้าได้อย่างแม่นยำ เพิ่มโอกาสในการได้กระเป๋าคืน
“AirTag สามารถช่วยคุณได้รับกระเป๋าคืนก่อนที่มันจะจบลงในกองกระเป๋าสูญหายที่ถูกนำไปขาย” – View From The Wing
สรุป
การที่ American Airlines เริ่มใช้ข้อมูลจาก AirTag เป็นสัญญาณที่ดีว่าสายการบินกำลังพยายามแก้ไขปัญหาการจัดการกระเป๋าเดินทาง แม้ว่าจะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับสายการบินที่มีประวัติไม่ดีในเรื่องนี้ ผู้โดยสารควรพิจารณาใช้ AirTag หากต้องการความอุ่นใจเพิ่มเติมในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อนำของมีค่าติดตัวไปด้วย