จอ TFT คืออะไร? เจาะลึกเทคโนโลยีที่อยู่ในมือคุณทุกวัน! 🔍

จอ TFT คืออะไร

เคยสงสัยกันไหมคะว่าจอ TFT ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้มันทำงานยังไง? วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเทคโนโลยีสุดล้ำที่ซ่อนอยู่ในจอแสดงผลที่เราคุ้นเคย โดยจอ TFT ใช้แผงทรานซิสเตอร์บางๆ ที่เรียงตัวกันเป็นตารางเพื่อควบคุมพิกเซลแต่ละจุดอย่างแม่นยำ การทำงานแบบ active-matrix นี้ช่วยให้ได้คุณภาพของภาพที่ดีกว่า ตอบสนองเร็วกว่า และประหยัดพลังงานมากกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีจอแบบ passive โครงสร้างที่ซับซ้อนของจอ TFT ประกอบด้วยชั้นกระจก สารคริสตัลเหลว และแผงทรานซิสเตอร์ที่ทำงานร่วมกันเพื่อปรับแต่งแสงให้แสดงผลได้อย่างสวยงาม เมื่อเราได้เรียนรู้ส่วนประกอบหลักและข้อดีของเทคโนโลยี TFT จะเข้าใจว่าทำไมจอแบบนี้ถึงได้รับความนิยมในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปไปจนถึงจอแสดงผลในรถยนต์เลยค่ะ

ข้อสรุปสำคัญ

  • จอ TFT ใช้ทินฟิล์มทรานซิสเตอร์ควบคุมแต่ละพิกเซล ทำให้แสดงภาพได้แม่นยำและมีคุณภาพสูง
  • จอประกอบด้วยหลายชั้น ทั้งกระจก คริสตัลเหลว และฟิลเตอร์สี เรียงซ้อนกันเป็นแซนด์วิช
  • แต่ละพิกเซลมีทรานซิสเตอร์และตัวเก็บประจุ ทำให้ควบคุมสีได้แม่นยำด้วยระบบ active matrix
  • จอ TFT มีข้อดีคือตอบสนองเร็ว มุมมองภาพกว้าง และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จอคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงจอในรถยนต์ เพราะความยืดหยุ่นในการใช้งานและคุณภาพของภาพ

นิยามและส่วนประกอบหลัก

จอ TFT LCD คืออะไร?

จอ TFT LCD (จอแสดงผลผลึกเหลวแบบทินฟิล์มทรานซิสเตอร์) เป็นเทคโนโลยีจอแสดงผลที่ทันสมัย มีโครงสร้างเป็นชั้นๆ คล้ายแซนด์วิช ประกอบด้วยแผ่นกระจก ชั้นผลึกเหลว และฟิลเตอร์สี

ส่วนประกอบหลักๆ ก็คือทินฟิล์มทรานซิสเตอร์ที่ช่วยควบคุมแต่ละพิกเซล ทำให้ภาพมีคุณภาพดีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างแบบนี้ช่วยให้ควบคุมแสงได้แม่นยำ ทำให้ได้ภาพความละเอียดสูงที่มีสีสันสดใส และตอบสนองได้เร็ว

จอ TFT LCD คืออะไร?

จอ TFT LCD ประกอบด้วยหลายชั้น ได้แก่:

  • แผ่นกระจกสองชั้น
  • ชั้นผลึกเหลว
  • ชั้นทินฟิล์มทรานซิสเตอร์

แต่ละพิกเซลจะมีทรานซิสเตอร์และตัวเก็บประจุเพื่อควบคุมการทำงานแบบ active matrix

แผงทรานซิสเตอร์จะอยู่บนแผ่นกระจกชั้นหนึ่ง ทำหน้าที่ควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่จะส่งไปยังพิกเซลย่อยๆ โครงสร้างแบบนี้ช่วยให้ควบคุมแสงได้แม่นยำ ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูงทั้งในแง่ของความถูกต้องของสีและความเร็วในการตอบสนอง

โครงสร้างแบบแซนด์วิชด้วยแผ่นกระจก

หัวใจสำคัญของจอ TFT LCD คือโครงสร้างแบบแซนด์วิชที่มีหลายชั้นทำงานร่วมกันเพื่อสร้างภาพคุณภาพสูง โดยมีแผ่นกระจกสองชั้นเป็นโครงหลัก:

  • ชั้นแรกเป็นที่อยู่ของแผง TFT และขั้วไฟฟ้าของพิกเซล
  • อีกชั้นเป็นที่อยู่ของฟิลเตอร์สีและขั้วไฟฟ้าร่วม

ระหว่างแผ่นกระจกทั้งสองจะมีชั้นผลึกเหลวคั่นอยู่ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมแสง นอกจากนี้ยังมีแผ่นกรองแสงและไฟแบ็คไลท์ประกอบเป็นชุดที่สมบูรณ์

ชั้นผลึกเหลวและฟิลเตอร์สี

ชั้นผลึกเหลวและฟิลเตอร์สีเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้จอ TFT LCD แสดงภาพสวยสดใส

โมเลกุลของผลึกเหลวที่อยู่ระหว่างแผ่นกรองแสงจะปรับการส่องผ่านของแสงตามแรงดันไฟฟ้าที่ได้รับ ส่วนฟิลเตอร์สีที่เรียงตัวแบบ RGB จะกรองให้แสงผ่านเฉพาะความยาวคลื่นที่ต้องการในแต่ละพิกเซลย่อย ทำให้ควบคุมความสว่างและสีของแต่ละพิกเซลได้อย่างแม่นยำ

ทรานซิสเตอร์ควบคุมแต่ละพิกเซล

หัวใจของเทคโนโลยี TFT LCD คือทินฟิล์มทรานซิสเตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำที่ช่วยควบคุมแต่ละพิกเซล แต่ละพิกเซลจะมีทรานซิสเตอร์และตัวเก็บประจุทำงานร่วมกันแบบ active matrix

ทรานซิสเตอร์ทำหน้าที่เหมือนสวิตช์ควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่ส่งไปยังผลึกเหลว ขณะที่ตัวเก็บประจุช่วยรักษาประจุไฟฟ้าระหว่างรอบการรีเฟรช โครงสร้างแบบนี้ทำให้ควบคุมความสว่างและสีของแต่ละพิกเซลได้แม่นยำ ส่งผลให้ได้ภาพคุณภาพสูงและตอบสนองได้เร็ว

ข้อดีของจอ TFT

ข้อดีของจอ TFT

จอ TFT มีข้อดีหลายประการที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเทคโนโลยีจอแสดงผล คุณภาพของภาพและสีที่ดีเยี่ยมเป็นผลมาจากการควบคุมพิกเซลที่แม่นยำ ขณะที่การประหยัดพลังงานเกิดจากการที่ทรานซิสเตอร์แต่ละตัวจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตอบสนองที่รวดเร็วช่วยลดภาพเบลอ และมุมมองภาพที่กว้าง โดยเฉพาะในรุ่น IPS ช่วยให้มองเห็นภาพได้ชัดจากหลายมุม

คุณภาพภาพและสีที่ยอดเยี่ยม

คุณภาพของภาพและสีที่ดีเยี่ยมเป็นจุดเด่นของจอ TFT ระบบ active matrix ช่วยให้ควบคุมแรงดันไฟฟ้าสำหรับแต่ละพิกเซลได้แม่นยำ ทำให้สีสันสดใสและถูกต้อง

อัตรารีเฟรชที่สูงช่วยลดภาพเบลอ ขณะที่เทคโนโลยีแบ็คไลท์ที่ทันสมัยช่วยเพิ่มอัตราคอนทราสต์ การทำงานร่วมกันของฟิลเตอร์สีและการควบคุมผลึกเหลวทำให้แสดงสีได้กว้างขึ้นและภาพคมชัดขึ้น

ประหยัดพลังงาน

ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและกลไกควบคุมขั้นสูง จอ TFT จึงประหยัดพลังงานได้ดีกว่าจอรุ่นก่อนๆ การควบคุมพิกเซลแต่ละจุดด้วยทรานซิสเตอร์ช่วยให้จัดการพลังงานได้แม่นยำ ลดการใช้พลังงานโดยรวม ดูได้จากตารางเปรียบเทียบนี้:

ประเภทจอ กำลังไฟ (วัตต์) ประสิทธิภาพ อายุการใช้งาน (ชั่วโมง)
TFT LCD 2-5 สูง 50,000-100,000
OLED 1-3 สูงมาก 30,000-60,000
CRT 60-120 ต่ำ 20,000-30,000

แบ็คไลท์ที่มีประสิทธิภาพและการจัดการพิกเซลที่ดีของ TFT ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ในอุปกรณ์พกพา

ตอบสนองเร็ว

นอกจากประหยัดพลังงานแล้ว อีกข้อดีของจอ TFT คือตอบสนองเร็ว เทคโนโลยี TFT ควบคุมระดับพิกเซลได้ ทำให้เปลี่ยนสถานะเปิด-ปิดได้รวดเร็ว

ส่งผลให้ภาพไม่เบลอหรือมีเงาตามเมื่อมีการเคลื่อนไหว เวลาตอบสนองอยู่ที่ประมาณ 1-5 มิลลิวินาที ทำให้ภาพลื่นไหล เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการภาพเคลื่อนไหวเร็ว เช่น เล่นเกมหรือดูวิดีโอ

มุมมองภาพกว้าง (โดยเฉพาะเทคโนโลยี IPS)

หนึ่งในข้อดีที่สำคัญของจอ TFT คือมุมมองภาพที่กว้าง โดยเฉพาะในเทคโนโลยี IPS (In-Plane Switching) ที่ให้มุมมองดีกว่าจอ TN (Twisted Nematic) แบบดั้งเดิม ข้อดีมีดังนี้:

  • สีไม่ผิดเพี้ยนเมื่อมองจากมุมสุด
  • อัตราคอนทราสต์คงที่ในทุกมุมมอง
  • คุณภาพภาพดีขึ้นเมื่อมีคนดูหลายคน

เทคโนโลยี IPS ทำได้โดยจัดเรียงผลึกเหลวในแนวนอน ทำให้แสงผ่านได้ดีขึ้นเมื่อมองจากหลายมุม

การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ

การใช้งานจอ TFT ในอุตสาหกรรมต่างๆ

จอ TFT ได้เข้าไปมีบทบาทในหลายอุตสาหกรรมเพราะความยืดหยุ่นในการใช้งานและคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยม ในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค จอ TFT มีใช้ทั่วไปในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ให้ภาพความละเอียดสูงและรองรับการสัมผัส

เทคโนโลยีนี้ยังใช้กันมากในจอคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หน้าปัดรถยนต์ และอุปกรณ์อุตสาหกรรมและการแพทย์ที่ต้องการความแม่นยำในการแสดงภาพ

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต)

จอ TFT ได้ปฏิวัติวงการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค กลายเป็นส่วนสำคัญในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต โดยมีคุณสมบัติดังนี้:

  • ความหนาแน่นของพิกเซลสูงทำให้ภาพคมชัด
  • ประหยัดพลังงานช่วยยืดอายุแบตเตอรี่
  • ตอบสนองเร็วทำให้เลื่อนหน้าจอและดูวิดีโอได้ลื่น

เทคโนโลยี TFT ที่ปรับการปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบและต้นทุนที่คุ้มค่า ทำให้ผู้ผลิตนิยมใช้ ส่งผลให้เรามีอุปกรณ์พกพาจอคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้

จอคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก

จอคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญทั้งที่ทำงานและที่บ้าน โดยมีจอ TFT เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา เทคโนโลยี TFT ช่วยให้ได้จอความละเอียดสูง ตอบสนองเร็ว และประหยัดพลังงาน

ระบบ active-matrix ทำให้ได้สีสันสดใสและคอนทราสต์ที่ดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนจอ IPS ยังช่วยให้มุมมองภาพกว้างขึ้น ซึ่งสำคัญมากสำหรับการทำงานร่วมกัน

จอแสดงผลในรถยนต์

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ภายในรถยนต์ได้เปลี่ยนไปมาก จอดิจิทัลกลายเป็นส่วนประกอบพื้นฐานในรถทุกระดับ

จอ TFT ได้ปฏิวัติระบบแสดงผลในรถยนต์ ด้วยการนำเสนอ:

  • หน้าปัดดิจิทัลที่ปรับแต่งได้
  • จอระบบความบันเทิงขนาดใหญ่แบบสัมผัสได้
  • จอแสดงผลบนกระจกหน้า (HUD) เพื่อความปลอดภัยของคนขับ

จอเหล่านี้แสดงข้อมูลสำคัญของรถ ระบบนำทาง และความบันเทิง โดยทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรงในรถยนต์ได้ ความยืดหยุ่น ความทนทาน และคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยมทำให้จอ TFT กลายเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบรถยุคใหม่

อุปกรณ์อุตสาหกรรมและการแพทย์

จอ TFT กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อุตสาหกรรมและการแพทย์ ให้จอความละเอียดสูงและหน้าจอควบคุมที่แม่นยำ

จอเหล่านี้แสดงข้อมูลสำคัญในกระบวนการผลิต แผงควบคุม และเครื่องมือวินิจฉัยโรค อัตราคอนทราสต์สูง มุมมองกว้าง และการรีเฟรชที่เร็วช่วยให้แสดงข้อมูลได้แม่นยำในสภาพแวดล้อมที่สำคัญ

ความทนทานและความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยี TFT ทำให้เหมาะกับการใช้งานระยะยาวในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานทั้งในโรงงานและโรงพยาบาล

เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีจอแสดงผลอื่นๆ

เปรียบเทียบจอ TFT กับเทคโนโลยีจอแสดงผลอื่นๆ

จอ TFT มีคุณสมบัติที่แตกต่างเมื่อเทียบกับจอแบบอื่น เมื่อเทียบกับจอ OLED, จอ TFT ใช้แบ็คไลท์ ทำให้มีอัตราคอนทราสต์และมุมมองที่แคบกว่า แต่มีข้อดีคือราคาถูกกว่าและไม่มีปัญหาภาพติดค้าง

จอ TFT ทำงานได้ดีกว่าจอแบบ passive matrix ในเรื่องความเร็วในการตอบสนอง คุณภาพของภาพ และการใช้พลังงาน เพราะมีทรานซิสเตอร์ควบคุมแต่ละพิกเซลแยกกัน

TFT vs OLED: เรื่องคอนทราสต์และต้นทุน

สองปัจจัยหลักที่แตกต่างระหว่างจอ TFT และ OLED คือคอนทราสต์และต้นทุน จอ OLED มีคอนทราสต์ที่ดีกว่าเพราะแต่ละจุดเปล่งแสงได้เอง ในขณะที่ TFT ต้องใช้แบ็คไลท์

ในแง่ต้นทุน TFT ยังคงถูกกว่าในการผลิตจำนวนมาก

ความแตกต่างที่สำคัญ:

  • การให้แสง: OLED (แต่ละจุดแยกกัน) vs TFT (ใช้แบ็คไลท์)
  • ระดับสีดำ: OLED (ดำสนิท) vs TFT (เทาเข้ม)
  • ความซับซ้อนในการผลิต: OLED (สูงกว่า) vs TFT (ต่ำกว่า)

จุดเด่นเรื่องต้นทุนที่ต่ำกว่าของ TFT มักชนะข้อดีด้านคอนทราสต์ของ OLED ในหลายๆ การใช้งาน

TFT vs Passive Matrix: ความแตกต่างด้านประสิทธิภาพ

มีช่องว่างที่ชัดเจนระหว่างเทคโนโลยีจอ TFT และ Passive Matrix โดย TFT ใช้ทรานซิสเตอร์แยกควบคุมแต่ละพิกเซล ทำให้ได้ภาพคุณภาพดีกว่า ตอบสนองเร็วกว่า และใช้พลังงานน้อยกว่า

จอ Passive Matrix ใช้การออกแบบที่เรียบง่ายกว่าแต่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า รีเฟรชช้ากว่า และแสดงสีได้น้อยกว่า TFT ให้คอนทราสต์ที่ดีกว่า มุมมองกว้างกว่า และภาพนิ่งกว่า จึงเหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

นวัตกรรมล่าสุดของเทคโนโลยี TFT

นวัตกรรมล่าสุดของเทคโนโลยี TFT

การพัฒนาล่าสุดในเทคโนโลยี TFT ช่วยยกระดับประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของจอแสดงผลอย่างมาก นวัตกรรมสำคัญได้แก่ จอความละเอียดสูงที่มีความหนาแน่นของพิกเซลมากขึ้น การประหยัดพลังงานด้วยระบบแบ็คไลท์และวงจรขับที่ทันสมัย และมุมมองที่กว้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี IPS และ VA

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบสัมผัสและจอที่โค้งงอได้หรือทำเป็นรูปร่างต่างๆ ทำให้ใช้งานได้กว้างขวางขึ้นในหลายอุตสาหกรรม

จอความละเอียดสูงขึ้น

จอ TFT ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องความละเอียดที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิด:

  • ความหนาแน่นของพิกเซลเกิน 400 PPI
  • เทคนิคการแสดงผลพิกเซลย่อยที่ดีขึ้น
  • รองรับความละเอียด 4K และ 8K

การแพร่หลายของจอ TFT ความละเอียดสูงได้ปฏิวัติคุณภาพของภาพในหลากหลายการใช้งาน ตั้งแต่อุปกรณ์พกพาไปจนถึงจอขนาดใหญ่ การพัฒนานี้ต้องอาศัยความก้าวหน้าของวงจรขับและเทคโนโลยีแบ็คไลท์เพื่อรองรับจำนวนพิกเซลที่เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ประหยัดพลังงานมากขึ้น

การประหยัดพลังงานเป็นจุดเน้นสำคัญในนวัตกรรม TFT ยุคใหม่ มีการพัฒนาระบบแบ็คไลท์ที่ใช้ LED ประสิทธิภาพสูงและปรับปรุงการกระจายแสง

วงจรจัดการพลังงานที่ทันสมัยปรับแรงดันของพิกเซลแบบไดนามิก ช่วยลดการใช้พลังงานโดยรวม เทคนิคการหรี่แสงเฉพาะจุดช่วยให้ส่องสว่างเฉพาะบริเวณที่ต้องการ

การพัฒนาเหล่านี้ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ในอุปกรณ์พกพาและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในจอขนาดใหญ่

มุมมองภาพที่ดีขึ้น

ข้อจำกัดเรื่องมุมมองภาพเป็นปัญหาเรื้อรังของจอ TFT แบบดั้งเดิม แต่นวัตกรรมล่าสุดได้พัฒนาด้านนี้อย่างมาก เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยขยายมุมมองให้กว้างขึ้น ทำให้ภาพดูดีจากหลายมุม:

  • In-Plane Switching (IPS): จัดผลึกเหลวขนานกับจอ ลดการผิดเพี้ยนของสี
  • Vertical Alignment (VA): ใช้ผลึกเหลวแนวตั้งเพื่อคอนทราสต์ที่ดีขึ้น
  • Multi-Domain Vertical Alignment (MVA): รวม VA กับการแบ่งพิกเซลย่อยเพื่อความสม่ำเสมอที่ดีขึ้น

การพัฒนาเหล่านี้ช่วยลดปัญหาสีผิดเพี้ยนและคอนทราสต์ตกเมื่อมองจากมุมเอียง ยกระดับประสิทธิภาพโดยรวมของจอแสดงผล

การรวมความสามารถหน้าจอสัมผัส

การรวมความสามารถหน้าจอสัมผัสเข้ากับจอ TFT เป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีจอแสดงผล ทำให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบโดยตรงผ่านเซ็นเซอร์แบบ capacitive หรือ resistive ที่วางซ้อนบนจอ TFT

การพัฒนาล่าสุดใช้เทคโนโลยี in-cell หรือ on-cell touch ช่วยลดความหนาโดยรวมและเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผล การรองรับมัลติทัชและการตอบสนองที่ดีขึ้นช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ โดยเฉพาะในอุปกรณ์มือถือและตู้คีออส

การพัฒนาจอที่โค้งงอได้และทำเป็นรูปร่างต่างๆ

นวัตกรรมล่าสุดของเทคโนโลยี TFT ได้เปิดทางให้เกิดการพัฒนาจอที่โค้งงอได้และทำเป็นรูปร่างที่ไม่ใช่สี่เหลี่ยม ปฏิวัติรูปแบบและขยายความเป็นไปได้ในการใช้งาน การพัฒนาเหล่านี้ใช้วัสดุรองและกระบวนการผลิตใหม่ๆ เพื่อสร้างจอที่ยืดหยุ่นได้

การพัฒนาที่สำคัญได้แก่:

  • ใช้วัสดุ polyimide แทนกระจกแข็ง
  • ทรานซิสเตอร์แบบ LTPS (Low-Temperature Polycrystalline Silicon) เพื่อความยืดหยุ่น
  • เทคนิคการห่อหุ้มเพื่อป้องกันผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม

นวัตกรรมเหล่านี้ทำให้สร้างจอแบบโค้ง พับได้ และม้วนได้ เปิดมิติใหม่ในการออกแบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสวมใส่

สรุป

เทคโนโลยีจอ TFT เป็นก้าวสำคัญของระบบจอแสดงผล ให้คุณภาพของภาพและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า โครงสร้างแบบ active matrix ช่วยให้ควบคุมพิกเซลได้แม่นยำ ทำให้สีสันสดใสและตอบสนองเร็ว เทคโนโลยี TFT ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปไปจนถึงยานยนต์และการแพทย์ นวัตกรรมในอนาคตของ TFT จะมุ่งเน้นการประหยัดพลังงาน เพิ่มความละเอียด และพัฒนาจอที่โค้งงอหรือพับได้

Facebook Comments Box

Leave a Reply