5 วิธีเช็คเครือข่ายมือถือ แบบเทพๆ ใน 1 นาที!

เช็คเครือข่ายมือถือ

คุณเคยสงสัยไหมว่าเบอร์มือถือที่ใช้อยู่เป็นของค่ายไหนกันแน่? บางทีก็งงๆ ว่าเป็น AIS DTAC หรือ True นี่แหละ! แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้เรามีวิธีง่ายๆ มาแนะนำ ให้คุณเช็คได้แบบชัวร์ๆ ว่าเบอร์ของคุณอยู่ค่ายไหนกันแน่

การรู้ว่าเราใช้เครือข่ายอะไรนั้นสำคัญมากนะคะ ไม่ใช่แค่เรื่องความอยากรู้อยากเห็นธรรมดา แต่มันช่วยให้เราใช้งานได้คุ้มค่าสุดๆ เลยล่ะ ทั้งเรื่องโปรโมชั่น การจัดการค่าใช้จ่าย หรือแม้แต่การหลีกเลี่ยงค่าโทรแพงๆ จากการโทรข้ามเครือข่ายโดยไม่รู้ตัว

มาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้เราเช็คได้ว่าเบอร์มือถือของเราอยู่ค่ายอะไร

สรุปสำคัญ

  • กด USSD code เฉพาะของแต่ละค่าย: AIS (545#), DTAC (102#), หรือ True Move H (*933#)
  • เช็คในตั้งค่ามือถือ ดูที่ “เกี่ยวกับโทรศัพท์” หรือ “สถานะซิม”
  • ใช้แอพมือถือ เช่น Whoscall หรือแอพของแต่ละค่ายเพื่อดูข้อมูลเครือข่าย
  • ดูจากใบแจ้งหนี้ สัญญา หรือเอกสารลงทะเบียน
  • โทรหาคอลเซ็นเตอร์ ไปที่ศูนย์บริการ หรือแชทออนไลน์เพื่อสอบถามโดยตรง

วิธีง่ายๆ ในการเช็คเครือข่าย

วิธีง่ายๆ ในการเช็คเครือข่าย

มีหลายวิธีที่ง่ายๆ ในการเช็คว่าเราใช้เครือข่ายอะไรอยู่ค่ะ วิธีแรกเลยคือการใช้รหัส USSD ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วและตรงไปตรงมาที่สุด แค่กดรหัสบนแป้นโทรศัพท์ก็รู้ผลแล้ว

นอกจากนี้ยังมีแอพมือถือที่ช่วยเช็คได้ง่ายๆ หรือจะเข้าไปดูในเมนูการตั้งค่าของมือถือเองก็ได้ค่ะ ซึ่งวิธีนี้จะให้ข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับสถานะเครือข่ายและการตั้งค่าต่างๆ ด้วย

ใช้รหัส USSD

การใช้รหัส USSD นี่เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วมากๆ เลยค่ะ แต่ละค่ายก็จะมีรหัสเฉพาะของตัวเอง พอเรากดแล้วข้อมูลก็จะขึ้นมาทันที ไม่ต้องรอนาน

ลองกดตามนี้เลยนะคะ:

  • AIS กด *545#
  • DTAC กด *102#
  • True Move H กด *933#

ผ่านแอพมือถือ

อีกวิธีที่ง่ายไม่แพ้กันก็คือใช้แอพมือถือค่ะ มีแอพหลายตัวที่ช่วยเช็คได้ เช่น Whoscall ที่นอกจากจะบอกว่าเบอร์นี้อยู่ค่ายไหนแล้ว ยังช่วยเช็คได้ด้วยว่าเบอร์ไหนเป็นสแปมรึเปล่า

นอกจากนี้แต่ละค่ายก็มีแอพของตัวเองด้วยนะ พอเราล็อกอินเข้าไปก็จะเห็นข้อมูลเครือข่ายเลย สะดวกดีเหมือนกัน

ผ่านการตั้งค่าโทรศัพท์

สำหรับคนที่ไม่อยากโหลดแอพเพิ่ม วิธีนี้น่าจะเหมาะค่ะ แค่เข้าไปดูในส่วนการตั้งค่าของมือถือ เราก็จะเห็นข้อมูลเครือข่ายได้แล้ว วิธีนี้ใช้ได้ทั้งมือถือ Android และ iOS เลยล่ะ

ทำตามขั้นตอนง่ายๆ นี้เลยนะคะ:

  1. เข้าไปที่ “การตั้งค่า” (Settings)
  2. เลือก “เกี่ยวกับโทรศัพท์” (About Phone) หรือ “ทั่วไป” (General)
  3. กดเลือก “เครือข่าย” (Network) หรือ “สถานะซิม” (SIM Status)
  4. ดูชื่อผู้ให้บริการได้เลย!

วิธีเช็คแยกตามค่าย

ตารางแสดงรหัส USSD และตัวเลือก SMS สำหรับค่ายมือถือหลักในประเทศไทย

แต่ละค่ายก็มีวิธีเช็คที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองนะคะ มาดูกันว่าแต่ละค่ายมีวิธียังไงบ้าง

ค่ายรหัส USSDตัวเลือก SMS
AIS*545#ส่ง SMS “N” ไปที่ 545
DTAC*102#ส่ง SMS “NET” ไปที่ 4444
TrueMove H*900#ส่ง SMS “NET” ไปที่ 900
NT*123#ส่ง SMS “BAL” ไปที่ 123

วิธีพวกนี้ช่วยให้เราเช็คข้อมูลเครือข่าย ยอดเงินคงเหลือ และปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะค่ะ

AIS

โลโก้ AIS บนหน้าจอสมาร์ทโฟน แสดงวิธีการกดรหัส USSD

สำหรับคนที่ใช้ AIS อยู่ ก็มีวิธีง่ายๆ ในการเช็คข้อมูลเครือข่ายเหมือนกันนะคะ

ถ้าอยากรู้ว่าเบอร์อื่นเป็นของค่ายอะไร ก็แค่กด 727 ตามด้วยเบอร์ที่ต้องการเช็ค แล้วกด # แล้วกดโทรออก

ส่วนถ้าอยากเช็คเบอร์ตัวเองว่าเป็น AIS จริงๆ ก็แค่กด *545# แล้วกดโทรออกเลย ง่ายมากๆ

กด 727[เบอร์โทรศัพท์]# สำหรับเช็คเบอร์อื่น

วิธีนี้สะดวกมากๆ เลยค่ะสำหรับลูกค้า AIS ที่อยากรู้ว่าเบอร์เพื่อนหรือคนรู้จักอยู่ค่ายไหน

วิธีใช้ก็ง่ายนิดเดียว:

  1. กด 727
  2. ตามด้วยเบอร์ที่อยากเช็ค
  3. ปิดท้ายด้วย #
  4. กดปุ่มโทรออก

เท่านี้ระบบก็จะบอกเลยว่าเบอร์นั้นอยู่ค่ายอะไร ไม่ต้องเปลืองเน็ต ไม่ต้องโหลดแอพอะไรเพิ่มเติมเลย

กด *545# สำหรับเช็คเบอร์ตัวเอง

ถ้าอยากรู้เบอร์ตัวเองล่ะ? ก็ง่ายไม่แพ้กันเลยค่ะ แค่กด *545# แล้วกดโทรออก ระบบก็จะแสดงเบอร์ของเราขึ้นมาทันที

วิธีนี้เหมาะมากสำหรับคนที่มีซิมหลายอัน หรือเพิ่งได้เบอร์ใหม่มา จะได้ไม่สับสนไงคะ

DTAC

โลโก้ DTAC บนหน้าจอสมาร์ทโฟน พร้อมคำแนะนำวิธีกดรหัส USSD

สำหรับสายดีแทคก็มีวิธีง่ายๆ ในการเช็คข้อมูลเครือข่ายเหมือนกันนะคะ

ถ้าอยากรู้ว่าเบอร์อื่นเป็นของค่ายอะไร ก็แค่กด 102 ตามด้วยเบอร์ที่อยากเช็ค แล้วกด #

ส่วนถ้าอยากเช็คเบอร์ตัวเองก็แค่กด *102# ง่ายๆ แค่นี้เองค่ะ

กด 102[เบอร์โทรศัพท์]# สำหรับเช็คเบอร์อื่น

วิธีนี้ใช้ได้กับทุกเบอร์ในไทยเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหนก็ตาม

ลองทำตามนี้ดูนะ:

  1. กด 102
  2. ตามด้วยเบอร์ที่อยากเช็ค
  3. ปิดท้ายด้วย #
  4. กดปุ่มโทรออก

แค่นี้ระบบก็จะบอกว่าเบอร์นั้นเป็นของค่ายอะไร ง่ายมากๆ เลย

กด *102# สำหรับเช็คเบอร์ตัวเอง

สำหรับคนที่ใช้ดีแทคแล้วอยากรู้เบอร์ตัวเอง วิธีนี้ง่ายสุดๆ เลยค่ะแค่กด *102# แล้วกดโทรออก เท่านี้ระบบก็จะแสดงเบอร์ของเราขึ้นมาบนหน้าจอเลย

วิธีนี้สะดวกมากๆ เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเปลี่ยนเบอร์ใหม่ หรือมีซิมหลายอัน จะได้ไม่สับสนไงคะ ไม่ต้องเปิดเน็ต ไม่ต้องเสียเงิน ทำได้ทันทีเลย

True Move H

โลโก้ True Move H บนหน้าจอสมาร์ทโฟน พร้อมวิธีการกดรหัส USSD

สำหรับคนที่ใช้ทรูมูฟ เอช ก็มีวิธีเช็คง่ายๆ เหมือนกันนะคะ

ถ้าอยากรู้ว่าเบอร์อื่นเป็นของค่ายไหน ก็แค่กด 933 ตามด้วยเบอร์ที่อยากเช็ค แล้วกด #

ส่วนถ้าอยากเช็คเบอร์ตัวเองก็แค่กด *933# ง่ายจัง ใช่มั้ยล่ะ?

กด 933[เบอร์โทรศัพท์]# สำหรับเช็คเบอร์อื่น

วิธีนี้สะดวกมากๆ เลยค่ะ ถ้าคุณอยากรู้ว่าเบอร์เพื่อนหรือคนรู้จักอยู่ค่ายอะไร

ลองทำตามนี้นะ:

  1. กด 933
  2. ตามด้วยเบอร์ที่อยากเช็ค
  3. ปิดท้ายด้วย #
  4. กดปุ่มโทรออก

แค่นี้ระบบก็จะบอกเลยว่าเบอร์นั้นอยู่ค่ายไหน ดีตรงที่:

  • เช็คได้เร็วว่าเบอร์นั้นอยู่เครือข่ายเดียวกันมั้ย
  • เช็คได้หลายเบอร์ต่อเนื่องกันเลย
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วยนะ

ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าจะโทรหรือส่งข้อความหาเบอร์นั้นยังไงดี โดยเฉพาะถ้ามีโปรโมชั่นโทรฟรีในเครือข่ายอยู่

กด *933# สำหรับเช็คเบอร์ตัวเอง

วิธีนี้ง่ายสุดๆ เลยค่ะสำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช ที่อยากรู้เบอร์ตัวเอง

แค่กด *933# แล้วกดโทรออก ระบบก็จะแสดงเบอร์ของเราขึ้นมาบนหน้าจอทันที

สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องโหลดแอพอะไรเพิ่มเติม ใครๆ ก็ทำได้

การใช้แอพมือถือ

หน้าจอสมาร์ทโฟนแสดงแอพสำหรับตรวจสอบเครือข่ายและเบอร์สแปม

นอกจากวิธีกดรหัสแล้ว เรายังมีตัวช่วยอย่างแอพมือถือด้วยนะคะ แอพพวกนี้ไม่ได้แค่บอกว่าเราใช้เครือข่ายอะไร แต่ยังมีฟีเจอร์เจ๋งๆ อื่นๆ ด้วย

อย่างแอพ Whoscall นี่ นอกจากจะบอกว่าเบอร์นั้นๆ อยู่ค่ายไหนแล้ว ยังช่วยเช็คได้ด้วยว่าเบอร์ไหนเป็นสแปมหรือเปล่า ปลอดภัยหายห่วงเลยล่ะ

แอพ Whoscall สำหรับเช็คเครือข่ายและเบอร์สแปม

ถ้าใครกำลังมองหาวิธีที่ครบเครื่องในการเช็คเครือข่ายและระวังเบอร์สแปม แอพ Whoscall น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ

แอพนี้มีฟีเจอร์เด็ดๆ หลายอย่าง:

  1. บอกได้ว่าเบอร์นั้นอยู่ค่ายไหน
  2. เตือนถ้าเบอร์นั้นอาจจะเป็นสแปมหรือหลอกลวง
  3. แสดงข้อมูลผู้โทรสำหรับเบอร์ที่เราไม่รู้จัก ช่วยให้เรารู้ว่าควรรับสายดีมั้ย

ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ Whoscall มีฐานข้อมูลใหญ่มาก และยังอัพเดทแบบเรียลไทม์จากรายงานของผู้ใช้ด้วย เรียกว่าทันสมัยตลอดเวลาเลยล่ะ

การเช็คผ่านการตั้งค่าโทรศัพท์

ภาพแสดงขั้นตอนการเช็คเครือข่ายผ่านการตั้งค่าโทรศัพท์ทั้งในระบบ Android และ iOS

วิธีนี้ง่ายๆ ไม่ต้องกดรหัสอะไรให้ปวดหัวเลยค่ะ แถมยังทำได้ทั้งมือถือ Android และ iOS อีกด้วย มาดูกันว่าแต่ละระบบทำยังไง:

AndroidiOS
1. เปิดแอพ “การตั้งค่า”1. เปิดแอพ “การตั้งค่า”
2. เลือก “เกี่ยวกับโทรศัพท์”2. เลือก “ทั่วไป”
3. กดเลือก “สถานะ”3. เลือก “เกี่ยวกับ”
4. มองหา “เครือข่าย”4. หา “ผู้ให้บริการ”
5. ดูชื่อผู้ให้บริการได้เลย5. ดูชื่อผู้ให้บริการได้เลย

แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเราใช้เครือข่ายอะไรอยู่ ไม่ต้องโหลดแอพเพิ่ม ไม่ต้องจำรหัสอะไรให้ปวดหัวเลย สะดวกสุดๆ

Android

สำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้มือถือ Android การเช็คเครือข่ายก็ง่ายนิดเดียวเลยค่ะ แค่เข้าไปที่เมนูการตั้งค่าของมือถือ

ลองทำตามนี้นะคะ:

  1. เปิดแอพ “การตั้งค่า”
  2. เลือก “เกี่ยวกับโทรศัพท์” หรือ “เกี่ยวกับอุปกรณ์”
  3. กดเลือก “สถานะ” หรือ “สถานะโทรศัพท์”

พอเข้าไปที่ “สถานะซิม” หรือ “เครือข่าย” เราก็จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการมือถือของเรา ความแรงของสัญญาณ และประเภทเครือข่าย (เช่น 4G, 5G) เลย

ข้อมูลพวกนี้มีประโยชน์มากๆ นะคะ โดยเฉพาะถ้าเรากำลังมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อหรืออยากรู้ว่าตอนนี้เราใช้เน็ตแบบไหนอยู่

iOS

สำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้ iPhone ก็มีวิธีง่ายๆ ในการเช็คเครือข่ายเหมือนกันนะคะ

วิธีแรกคือเข้าไปที่แอพ “รายชื่อ” แล้วหาการ์ดรายชื่อของเราเอง ปกติแล้วมันจะแสดงเบอร์โทรและเครือข่ายที่เราใช้อยู่เลย

อีกวิธีก็คือเข้าไปที่ “การตั้งค่า” > “โทรศัพท์” > “หมายเลขของฉัน” ตรงนี้ก็จะเห็นเบอร์โทรของเรา ซึ่งมันจะผูกอยู่กับเครือข่ายที่เราใช้อยู่นั่นเอง

รายชื่อ > การ์ดของคุณ

วิธีนี้เป็นวิธีที่เร็วมากๆ สำหรับคนใช้ iPhone นะคะ

ลองทำตามนี้ดูนะ:

  1. เปิดแอพ “รายชื่อ”
  2. เลื่อนขึ้นไปด้านบนสุด จะเจอการ์ดรายชื่อของเรา
  3. แตะที่การ์ดของเราเพื่อดูรายละเอียด

ตรงนี้จะแสดงเบอร์โทรและเครือข่ายที่เราใช้อยู่เลย สะดวกมากๆ โดยเฉพาะถ้าเรามีซิมหลายอันหรือเพิ่งเปลี่ยนเบอร์ใหม่ๆ จะได้ไม่สับสนไงคะ

การตั้งค่า > โทรศัพท์ > หมายเลขของฉัน

อีกวิธีที่ง่ายไม่แพ้กันสำหรับคนใช้ iPhone ก็คือการเข้าไปดูในส่วนการตั้งค่าค่ะ

ลองทำตามนี้นะ:

  1. เปิดแอพ “การตั้งค่า”
  2. เลื่อนลงมาหา “โทรศัพท์” แล้วแตะเข้าไป
  3. ดูที่ “หมายเลขของฉัน”

ตรงนี้จะแสดงเบอร์โทรของเรา ซึ่งมันก็จะบอกด้วยว่าเราใช้เครือข่ายอะไรอยู่

ถ้าใครมีซิมหลายอัน ก็จะเห็นข้อมูลของทั้งสองซิมเลยนะ สะดวกมากๆ ไม่ต้องพึ่งแอพอื่นหรือจำรหัสอะไรให้ปวดหัวเลย

วิธีนี้ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลเครือข่ายได้เร็วมาก โดยเฉพาะถ้าเราต้องการข้อมูลนี้บ่อยๆ เช่น ตอนโทรหาคอลเซ็นเตอร์ หรือตอนต้องกรอกข้อมูลในฟอร์มต่างๆ

ความสำคัญของการรู้เครือข่ายของคุณ

ภาพแสดงคนกำลังใช้สมาร์ทโฟนกับฉากหลังเป็นสัญลักษณ์ของเครือข่ายมือถือต่างๆ

รู้มั้ยว่าการรู้ว่าเราใช้เครือข่ายอะไรนั้นสำคัญมากๆ เลยนะคะ ไม่ใช่แค่เรื่องอยากรู้อยากเห็นธรรมดาๆ แต่มันมีประโยชน์จริงๆ

อย่างแรกเลย มันช่วยให้เราใช้โปรโมชั่นในเครือข่ายได้คุ้มค่าสุดๆ บางทีมีโปรโทรฟรีในเครือข่าย เราก็จะได้ใช้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ยังช่วยให้เราจัดการค่าใช้จ่ายและการใช้งานได้ดีขึ้น รู้ว่าควรโทรยังไงให้ประหยัด ไม่พลาดโปรเด็ดๆ

ที่สำคัญ เราจะได้ไม่พลาดโทรข้ามเครือข่ายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบางทีอาจจะแพงกว่าที่คิดนะ

ใช้โปรโมชั่นในเครือข่ายให้คุ้ม

รู้ว่าใช้เครือข่ายอะไรแล้วมีข้อดีเยอะแยะเลยนะคะ โดยเฉพาะเรื่องโปรโมชั่น:

  1. ได้ใช้โปรโทรฟรีหรือราคาพิเศษในเครือข่ายอย่างคุ้มค่า
  2. เลือกแพ็กเกจเน็ตที่เหมาะกับเราได้ถูกต้อง
  3. ได้รับสิทธิพิเศษจากโปรแกรมสะสมแต้มของแต่ละค่าย

แค่นี้ก็ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะแล้วล่ะ

จัดการการใช้งานและค่าใช้จ่าย

รู้ว่าใช้เครือข่ายอะไร ช่วยให้เราควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นเยอะเลยนะคะ

  • เราจะรู้ว่าใช้เน็ต โทร SMS ไปเท่าไหร่แล้ว ไม่เกินแพ็กเกจแน่นอน
  • เข้าใจว่าแต่ละแพ็กเกจคิดเงินยังไง ปรับการใช้งานให้คุ้มค่าที่สุด
  • รู้ว่ารอบบิลเราเป็นวันไหน จะได้จ่ายตรงเวลา ไม่โดนตัดสัญญาณ

แถมยังช่วยให้เราเลือกแพ็กเกจที่เหมาะกับการใช้งานจริงๆ ของเราด้วย ประหยัดเงินไปอีก!

หลีกเลี่ยงการโทรข้ามเครือข่ายโดยไม่ตั้งใจ

นอกจากเรื่องจัดการค่าใช้จ่ายแล้ว การรู้ว่าเราใช้เครือข่ายอะไรยังช่วยเรื่องอื่นๆ อีกเพียบเลยค่ะ

รู้แบบนี้แล้วช่วยอะไรได้บ้าง:

  1. ไม่พลาดโทรข้ามเครือข่ายแบบไม่รู้ตัว ซึ่งอาจจะแพงกว่าที่คิด
  2. ใช้โปรโมชั่นโทรฟรีในเครือข่ายได้อย่างเต็มที่
  3. รู้ว่าควรอยู่บริเวณไหนถึงจะมีสัญญาณดีที่สุด

แค่นี้ก็ช่วยให้เราใช้มือถือได้อย่างชาญฉลาด ประหยัดเงิน แถมยังได้คุณภาพสัญญาณที่ดีสุดๆ อีกด้วย

ข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี

ภาพแสดงเปรียบเทียบวิธีต่างๆ ในการเช็คเครือข่ายมือถือ

แต่ละวิธีที่เราคุยกันมาก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนะคะ

การกดรหัส USSD นี่เร็วมาก แต่ต้องจำรหัสให้ได้

ส่วนแอพมือถือให้ข้อมูลละเอียดดี แต่ต้องโหลดแอพมาก่อน แถมต้องใช้เน็ตด้วย

การเช็คในตั้งค่ามือถือก็สะดวกดี แต่บางเครื่องที่ล็อคอยู่อาจจะทำไม่ได้

ถ้าโทรถามคอลเซ็นเตอร์ก็ได้ข้อมูลแม่นยำแน่นอน แต่อาจจะเสียเวลารอสายนาน

ส่วนการเช็คผ่านเว็บไซต์ก็ทำได้ง่าย แต่อาจจะมีประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวนิดหน่อย

รหัส USSD

การใช้รหัส USSD นี่เป็นวิธีที่เร็วมากๆ เลยนะคะในการเช็คข้อมูลเครือข่ายมือถือในไทย แค่กดรหัสสั้นๆ บนแป้นโทรศัพท์ เราก็จะได้ข้อมูลทันที

แต่ข้อเสียก็คือ เราต้องจำรหัสให้ได้ ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่ายากไปหน่อย โดยเฉพาะถ้าต้องจำหลายรหัสสำหรับแต่ละค่าย

เร็ว แต่ต้องจำรหัส

การกดรหัส USSD นี่เป็นวิธีที่เร็วสุดๆ เลยนะคะในการเช็คเครือข่ายมือถือในไทย แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยคือต้องจำรหัสให้ได้

มาดูรหัสของแต่ละค่ายกันอีกทีดีกว่า:

  1. AIS: กด 727[เบอร์โทรศัพท์]# หรือ *545#
  2. DTAC: กด 102[เบอร์โทรศัพท์]# หรือ *102#
  3. True Move H: กด 933[เบอร์โทรศัพท์]# หรือ *933#

พอจำรหัสได้แล้ว เราก็จะเช็คเครือข่ายและเบอร์ตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตหรือแอพอะไรเลย สะดวกมากๆ

แอพมือถือ

แอพมือถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยนะคะสำหรับการเช็คเครือข่าย วิธีนี้ให้ข้อมูลละเอียดกว่าการกดรหัส USSD เยอะเลย

อย่างแอพ Whoscall ที่เราคุยกันไปก่อนหน้านี้ นอกจากจะบอกว่าเบอร์นั้นๆ อยู่เครือข่ายไหนแล้ว ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจด้วย เช่น เช็คว่าเบอร์ไหนเป็นสแปม หรือบอกว่าใครกำลังโทรมา

ข้อมูลละเอียด แต่ต้องติดตั้ง

แอพมือถือให้ข้อมูลละเอียดมากๆ เลยนะคะ แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยคือต้องติดตั้งก่อน

มาดูแอพดีๆ กันสักหน่อย:

  1. Whoscall: นอกจากบอกเครือข่ายแล้ว ยังช่วยระบุเบอร์ที่ไม่รู้จักได้ด้วย
  2. Network Cell Info Lite: ให้ข้อมูลเครือข่ายละเอียดยิบ ทั้งความแรงสัญญาณ ประเภทเครือข่าย
  3. OpenSignal: มีแผนที่แสดงคุณภาพสัญญาณ และยังทดสอบความเร็วเน็ตได้ด้วย

แอพพวกนี้ให้ข้อมูลเยอะมาก แต่ก็ต้องคิดถึงเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลในมือถือ และอาจจะมีประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวนิดหน่อยนะคะ

วิธีเช็คอื่นๆ

วิธีการเช็คเครือข่ายมือถือแบบอื่นๆ เช่น การดูที่หน้าจอล็อค การตรวจสอบเอกสาร และการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า

นอกจากวิธีที่เราคุยกันไปแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ อีกนะคะที่เราสามารถใช้เช็คเครือข่ายมือถือในไทยได้

บางทีแค่ดูที่หน้าจอล็อคก็รู้แล้วว่าใช้เครือข่ายอะไรอยู่

หรือถ้าหาเอกสารตอนสมัครใช้บริการเจอ ก็จะมีข้อมูลเครือข่ายอยู่แน่นอน

ส่วนวิธีสุดท้ายที่แน่นอนที่สุดก็คือโทรไปถามคอลเซ็นเตอร์เลย รับรองได้คำตอบชัวร์ 100%

ดูที่หน้าจอล็อค

วิธีนี้ง่ายสุดๆ เลยค่ะ แค่เปิดหน้าจอมือถือขึ้นมา ไม่ต้องปลดล็อคด้วยซ้ำ:

  1. กดปุ่มเปิดเครื่องเพื่อเปิดหน้าจอล็อค
  2. มองหาชื่อเครือข่ายตรงมุมบนซ้ายหรือขวา
  3. เท่านี้ก็รู้แล้วว่าใช้เครือข่ายอะไรอยู่

วิธีนี้เร็วมาก ไม่ต้องเข้าแอพ ไม่ต้องกดรหัสอะไรทั้งนั้น แถมยังดูได้แม้มือถือจะล็อคอยู่ด้วยนะ สะดวกสุดๆ ไปเลย

ดูจากเอกสาร

อีกวิธีที่ง่ายไม่แพ้กันก็คือการดูจากเอกสารที่เกี่ยวกับมือถือของเราค่ะ ลองหาดูตามนี้:

  • เช็คใบแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์
  • ดูสัญญาที่เราเซ็นตอนสมัครใช้บริการ
  • หาเอกสารลงทะเบียนซิมการ์ด

เอกสารพวกนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่าย แพ็กเกจที่เราใช้ และเลขที่บัญชีของเราอยู่แน่นอน

นอกจากนี้ ลองเช็คอีเมลหรือ SMS ที่ได้รับจากผู้ให้บริการดูด้วยนะคะ บางทีอาจจะมีข้อมูลเครือข่ายอยู่ในนั้น

โทรถามคอลเซ็นเตอร์

ถ้าอยากได้คำตอบที่แน่นอนที่สุด วิธีนี้เลยค่ะ – โทรไปถามคอลเซ็นเตอร์ของผู้ให้บริการโดยตรง พนักงานจะสามารถเช็คข้อมูลบัญชีของเราและบอกได้แน่ๆ ว่าเราใช้เครือข่ายอะไร

ลองทำตามนี้ดูนะคะ:

  1. โทรไปที่สายด่วนของผู้ให้บริการ
  2. ไปที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน
  3. ใช้บริการแชทออนไลน์บนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ

วิธีนี้อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่รับรองว่าได้ข้อมูลถูกต้องแน่นอน แถมยังสอบถามเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมได้ด้วย เช่น โปรโมชั่นใหม่ๆ หรือวิธีแก้ปัญหาการใช้งานต่างๆ

บทสรุป

เห็นไหมคะว่าการเช็คเครือข่ายมือถือในไทยนั้นไม่ยากเลย มีหลายวิธีให้เลือกใช้ตามความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการกดรหัส USSD ใช้แอพมือถือ เช็คในตั้งค่าเครื่อง หรือแม้แต่ดูที่หน้าจอล็อคก็ยังได้

แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เช่น การกดรหัสนั้นเร็วแต่ต้องจำให้ได้ ส่วนแอพให้ข้อมูลละเอียดแต่ต้องติดตั้งก่อน

สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าเราใช้เครือข่ายอะไรนั้นมีประโยชน์มากๆ ทั้งเรื่องการใช้โปรโมชั่นให้คุ้ม การจัดการค่าใช้จ่าย และการหลีกเลี่ยงค่าโทรแพงๆ โดยไม่จำเป็น

สุดท้ายนี้ ลองเลือกวิธีที่เหมาะกับคุณที่สุด แล้วเช็คดูสิคะว่าตอนนี้คุณใช้เครือข่ายอะไรอยู่ รับรองว่าจะช่วยให้คุณใช้มือถือได้คุ้มค่าและประหยัดขึ้นแน่นอน!

Facebook Comments Box

Leave a Reply